1. ดูแลร่างกาย :
หลังจากใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงจากการทำงาน
ทั้งการนั่งอยู่กับที่นานๆ หรืออาการปวดเมื่อยล้าตามร่างกายจากความเครียดด้วยการดูแลตัวเองในแบบต่างๆ เช่น
▪️ ออกกำลังกายแบบเบาๆ ด้วยการโยคะ หรือยืดเหยียด ให้กล้ามเนื้อได้คลายตัวจากสภาวะตึงเกร็ง
▪️ ออกกำลังกายชุดใหญ่ ทั้งแบบคาร์ดิโอ หรือ เวทเทรนนิ่ง ให้ร่างกายได้สดชื่นเต็มๆ
▪️ ทำสปา ลองอาบน้ำแร่แช่น้ำนม นอกจากจะคลายเครียดให้ร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณดีอีกด้วย
▪️ นวดคลายความปวดเมื่อย ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น
2. ดูแลจิตใจ :
ความรู้สึกเครียด โกรธ เศร้า อึดอัด ที่อยู่ภายในใจ แม้ไม่ได้แสดงออก ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ม
การดูแลจิตใจจึงสำคัญไม่แพ้กัน วิธีต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้จิตใจโปร่งโล่งสบายขึ้น เช่น
▪️ การนั่งสมาธิ หายใจเข้าออกให้ลึก ฝึกให้จิตอยู่กับร่างกาย แม้จะมีความคิด หรือความรู้สึกผุดขึ้นมา ก็แค่เห็นแล้วปล่อยไป ให้ตัวเราอยู่แต่กับปัจจุบันขณะ
▪️ เขียน Gratitude Journal หรือการเขียนบันทึกเรื่องที่เราขอบคุณ เขียนวันละน้อย แต่เขียนทุกวัน จะช่วยทำให้เรามองเห็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้เรามีความสุขง่ายขึ้น
3. ใช้เวลากับครอบครัว :
แต่ละครอบครัวก็มีวิถีที่แตกต่างกันออกไป บางบ้านอาจจะนานๆ เจอกันที หรือบางบ้านอาจจะเจอหน้ากัน แต่ด้วยภาระหน้าที่ ทำให้ไม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน
วันหยุดนี้ กลับมาสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวอีกครั้ง ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น
▪️ พาครอบครัวไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ได้ใช้เวลาร่วมกันท่ามกลางธรรมชาติ แถมยังได้ผ่อนคลายร่างกายด้วย
▪️ ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน เช่น วัด ตลาดพิพิธภัณฑ์ ได้ทั้งความรู้ ความสนุก และช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
▪️ รับประทานอาหารที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ สิ่งนี้คือการดูแลคนในครอบครัวอีกทางหนึ่ง ทำให้เราให้ได้พูดคุยกัน และได้ใช้เวลาร่วมกัน
4. นัดเจอเพื่อนๆ :
เพื่อนเป็นความสุขของใครหลายๆ คน แต่ด้วยภาระทางการงาน อาจทำให้หลายคนไม่ได้พบ หรือสังสรรค์กับเพื่อนเลย
วันไหนมีเวลาว่างลองนัดเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันนาน ออกมาเจอกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันดูสิ เช่น
▪️ ออกไปช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ เพราะเพื่อนทั้งรู้จักและรู้ใจเราดี ยิ่งได้ช้อปปิ้งด้วยกัน เรียกว่าได้ทั้งของถูกใจ ได้ทั้งความสนุกเลยทีเดียว
▪️ จัดทริปเล็กๆ ไปเที่ยวกับเพื่อน เช่น ไปนอนค้างในโฮสเทลกลางเมืองสักหนึ่งคืน ช่วยกระชับความสัมพันธ์ ถึงแม้หลังจากนี้จะไม่ได้เจอกันอีกนาน รับรองว่ามีเรื่องให้คุยต่ออีกหลายวันเลย
▪️ มานั่งเมาท์กันยาวๆ ในคาเฟ่ขนม นานๆ เจอกันที ต้องคุยกันให้หายคิดถึง ลองเลือกร้านที่มีเมนูหลากหลาย ทั้งเบเกอรี่ ไอศครีม สมูทตี้ โดยเฉพาะขนมแบบ Plant-Based ที่นอกจากคุยได้ยาวๆ แล้ว ยังอร่อยแบบไม่รู้สึกผิดอีกด้วย
5. ทานอาหารดีๆ :
อาหารดีๆ คือรางวัลชีวิตอย่างหนึ่ง
มาให้รางวัลชีวิตแบบสะใจ กับอาหารสไตล์ Plant-Based ที่ทำจากพืช 100% และที่สำคัญคืออร่อยมาก ที่ VEGANERIE
รักใครก็ชวนมากินที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือเพื่อนๆ
เพราะเรามีเมนูให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
▪️ อาหารต่างชาติ เช่น วีแกนเนอรี่ชีสเบอร์เกอร์ สลัดคีนัว ผักโขมอบชีส นักเก็ตเห็ดทอด
▪️ อาหารไทย เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ผัดไทย ส้มตำ ลาบ ตำถาด
▪️ ของหวานและเบเกอรี่ เช่น วาฟเฟิล แพนเค้ก บลูเบอร์รี่ชีสพาย ช็อกโกแลตมูสพาย เค้กแครอท
▪️ เครื่องดื่ม สมูทตี้ ไอศครีม เช่น ชานมไข่มุก ดาร์คช็อกสมูทตี้ มิกซ์เบอร์รี่สมูทตี้ ไอศครีมช็อกโกแลตซันเดย์
มีเวลาเมื่อไหร่ อย่าลืมพักเติมพลังชีวิตกันด้วยนะคะ